1. ปัญหาสำคัญ
ในการทำงานทำวิจัย (Research) ค้นคว้าอิสระ (IS) งานวิทยานิพนธ์ (Thesis) หรืองานดุษฎีนิพนธ์สามารถสรุปปัญหาไว้ 9 กรณี ได้แก่ ชื่อเรื่องวิทยานิพนธ์ (Thesis)ไม่ชัดเจน เพราะชื่อเรื่องเป็นปัญหาอันดับแรกที่ผู้ทำวิจัย (Research) ค้นคว้าอิสระ (IS)ส่วนใหญ่เกิดปัญหาชื่อเรื่องไม่สอดคล้องกับประเด็นปัญหาทำวิจัย (Research) ค้นคว้าอิสระ (IS) หรือชื่อเรื่องกว้างเกินไปไม่ชัดเจน การเขียนความเป็นมาและความสำคัญของปัญหาไม่ชัดเจน ซึ่งการเขียนความเป็นมาและความสำคัญของปัญหาที่พบ ส่วนใหญ่กล่าวถึงหรือนำเสนอภาพรวมทั่ว ๆ ไปของหัวข้อทำวิจัย (Research) ค้นคว้าอิสระ (IS)ไม่ตรงประเด็นขาดเหตุผลในการสนับสนุนข้อมูลที่ชัดเจนว่าเพราะอะไรถึงศึกษาทำวิจัย (Research) ค้นคว้าอิสระ (IS) ตามบริบท
2. ขอบเขตการศึกษาชัดเจน
โดยเฉพาะขอบเขตด้านสถานที่หรือพื้นที่ที่ทำการศึกษาทำวิจัย (Research) ค้นคว้าอิสระ (IS) ในหัวข้อนั้นๆ ในส่วนนี้สถานที่หรือพื้นที่ในการศึกษาทำวิจัย (Research) ค้นคว้าอิสระ (IS) ไม่ได้มีปัญหา แต่เป็นตัวผู้ทำวิจัย (Research) ค้นคว้าอิสระ (IS)เองที่สนใจอยากจะการศึกษา อาจด้วยเพราะเป็นรูปแบบที่ผู้ทำวิจัย (Research) ค้นคว้าอิสระ (IS) ถนัดแต่กลับทำให้เกิดปัญหา คือ ทำให้การเขียนความเป็นมาและความสำคัญออกมาในภาพรวมๆ ทั่วไปแต่กลับไม่ได้กล่าวถึงสถานที่หรือพื้นที่ที่ต้องการศึกษาทำวิจัย (Research) ค้นคว้าอิสระ (IS) ว่า เพราะอะไรถึงจะต้องทำการศึกษาในสถานที่หรือพื้นที่นั้น ๆ ปัญหาการตั้งวัตถุประสงค์และสมมติฐานการทำวิจัย (Research) ค้นคว้าอิสระ (IS) ไม่สอดคล้องกัน
3. สมมติฐานเป็นแนวทาง
ซึ่งวัตถุประสงค์นั้นเป็นแนวทางหรือเป้าหมายที่สามารถวัดผลได้ ส่วน สมมติฐาน คือ การคาดการณ์ของสิ่งที่จะเกิดขึ้น ในบริบทของการทำงานทำวิจัย (Research) ค้นคว้าอิสระ (IS) ที่ใช้ส่วนใหญ่ คือ ความสัมพันธ์ กับ ความแตกต่าง การเขียนประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับไม่ถูกต้อง ซึ่งประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ ผู้ทำวิจัย (Research) ค้นคว้าอิสระ (IS) ส่วนใหญ่มักจะนำเอาวัตถุประสงค์การทำวิจัย (Research) ค้นคว้าอิสระ (IS) มาเขียน ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง เพราะการเขียนประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับจริงๆ แล้วควรจะเขียนว่า ผลการทำวิจัย (Research) ค้นคว้าอิสระ (IS) ที่ได้นั้นจะนำไปใช้ประโยชน์ได้อย่างไร หรือเกิดประโยชน์อย่างไรมากกว่า กรอบแนวคิดการทำวิจัย (Research) ค้นคว้าอิสระ (IS) ไม่ชัดเจน
4. ทบทวนวรรณกรรมไม่เพียงพอ เจอแต่ปัญหาแน่นอน
ปัญหาในส่วนนี้เกิดจาก การทบทวนงานทำวิจัย (Research) ค้นคว้าอิสระ (IS) ที่เกี่ยวข้องไม่เพียงพอ หรือไม่มีคุณภาพมากพอ นำเอางานทำวิจัย (Research) ค้นคว้าอิสระ (IS) ของคนอื่นมาใช้โดยไม่ได้ศึกษาเรื่องนั้นดีพอ จึงทำให้กรอบแนวคิดและตัวแปรที่ศึกษาไม่ชัดเจน ซึ่งส่งผลกระทบต่อภาพรวมในการทำวิจัย (Research) ค้นคว้าอิสระ (IS) ที่ทำให้ผลการทำวิจัย (Research) ค้นคว้าอิสระ (IS) ที่ได้ไม่ชัดเจน หรือไม่เกิดประโยชน์ในการทำวิจัย (Research) ค้นคว้าอิสระ (IS)อย่างแท้จริง ปัญหาการทบทวนเอกสารและงานทำวิจัย (Research) ค้นคว้าอิสระ (IS)ไม่ดีพอ ซึ่งเกิดจากศึกษาเอกสารน้อย ไม่ลึก และกว้างพอที่จะทำวิจัย (Research) ค้นคว้าอิสระ (IS)
5. สร้างกรอบแนวคิดที่ดี
ทำให้กรอบแนวคิด ตัวแปรที่ศึกษา และนิยามคำศัพท์ไม่ชัดเจน ตลอดจนส่งผลต่อการสร้างเครื่องมือการทำวิจัย (Research) ค้นคว้าอิสระ (IS)ทำให้ไม่มีคุณภาพ โดยเฉพาะ การใช้วิธีคัดลอก นำงานทำวิจัย (Research) ค้นคว้าอิสระ (IS) มาของคนอื่น โดยที่ไม่ศึกษาทำความเข้าใจเรื่องให้ดีพอ ทำให้ “การกำหนดประชากรและตัวอย่างไม่ถูกต้อง เครื่องมือที่ใช้ในการทำวิจัย (Research) ค้นคว้าอิสระ (IS)ไม่มีคุณภาพ การเก็บข้อมูลไม่ถูกต้องสมบูรณ์ และ การวิเคราะห์ข้อมูลไม่ถูกต้องตามหลักการ” ที่สำคัญส่งผลต่อปัญหาการโจรกรรมทางปัญญาและการละเมิดลิขสิทธิ์ของผู้อื่นตามมาด้วย การนำเสนอข้อมูลหรือผลการทำวิจัย (Research) ค้นคว้าอิสระ (IS) ไม่เหมาะสม ซึ่งการนำเสนอผลการทำวิจัย (Research) ค้นคว้าอิสระ (IS) ควรนำเสนอผลการทำวิจัย (Research) ค้นคว้าอิสระ (IS) ให้ครอบคลุม ตรงตามวัตถุประสงค์ หรือสมมติฐานการทำวิจัย (Research) ค้นคว้าอิสระ (IS) สามารถอ่านค่าแปลผลผลการทำวิจัย (Research) ค้นคว้าอิสระ (IS)ได้อย่างถูกต้อง
6. นำเสนอผลงาน
การนำเสนอส่วนใหญ่จะเป็นใน รูปแบบตาราง กราฟ หรือแผนภูมิ ปัญหาการอภิปรายผล การเขียนข้อเสนอแนะการทำวิจัย (Research) ค้นคว้าอิสระ (IS)ไม่ชัดเจน ซึ่งการอภิปรายผลนั้นควรอภิปรายให้เป็นเหตุเป็นผลที่ชัดเจน ไม่ควรนำสาระในการทบทวนเอกสารและงานทำวิจัย (Research) ค้นคว้าอิสระ (IS)ที่เกี่ยวข้องมาใช้ ในการ ในส่วนของข้อเสนอแนะในการนำผลการทำวิจัย (Research) ค้นคว้าอิสระ (IS)ไปใช้ ไม่ได้เสนอแนะจากผลการทำวิจัย (Research) ค้นคว้าอิสระ (IS)ที่ทำ แต่ควรจะเสนอแนะจากที่ผู้ทำวิจัย (Research) ค้นคว้าอิสระ (IS)คิดโดยไม่เกี่ยวข้องกับผลการทำวิจัย (Research) ค้นคว้าอิสระ (IS)ที่ได้ และปัญหาการเขียนอ้างอิง บรรณานุกรมไม่ถูกต้องตามหลักวิชาการ เพราะก่อนการลงมือทำงานทำวิจัย (Research) ค้นคว้าอิสระ (IS) คุณควรศึกษารูปแบบของเล่มงานทำวิจัย (Research) ค้นคว้าอิสระ (IS)ของสถาบันที่คุณทำการศึกษาก่อนว่า มีรูปแบบการเขียนเป็นอย่างไร เพื่อไม่ให้เกิดข้อผิดพลาดในการแก้ไขงานที่ยิบย่อย โดยเฉพาะ การเขียนอ้างอิงแทรกในเนื้อหา วิธีการเขียนอ้างอิงและบรรณานุกรมไม่ถูกต้องหรือไม่ครบ เขียนรายงานไม่ถูกต้องตามแบบฟอร์มที่สถาบันกำหนด ซึ่งเกิดข้อผิดพลาดได้บ่อยมากและเป็นปัญหายอดนิยมที่พบได้จากการทำงานทำวิจัย (Research) ค้นคว้าอิสระ (IS) และให้ผู้ทำวิจัย (Research) ค้นคว้าอิสระ (IS)ได้ตระหนักถึงปัญหาและข้อบกพร่องในการทำวิจัย (Research) ค้นคว้าอิสระ (IS) อีกทั้งพร้อมเป็นแนวทางแก้ไขก่อนที่จะเกิดปัญหา
